2.ศิวิไลย์ยุคปลาย
ความเจริญด้านเทคโนโลยีของมนุษย์โลก ณ.เวลานี้ พัฒนาการอยู่ระหว่างกลางและยังสามารถพัฒนาไปได้อีกเท่ากับระยะเวลาที่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบันจึงจะสิ้นสุดพัฒนาต่อไปไม่ได้ จะถดถอยล่มสลายลงไปเรื่อย ๆ
จนเข้าสู่ยุคมิคสัญญี
ณ.ปัจจุบันี้สังคมโลกกำลังปรับตัวทางด้านความคิด เป็นเวลาทบทวนและสรุปบทเรียนที่ผ่านมา
จะเป็นการผ่องถ่ายกลุ่มผู้นำเป็นคนรุ่นใหม่
เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุดของโลกอีกครั้งซึ่งจะนำไปสู่ความเป็นศิวิไลย์อีก
ระดับขั้นหนึ่ง ที่มีการพัฒนาการสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ความพยายามขัดขวางมิให้ผู้นำกลุ่มใหม่ขึ้นมามีบทบาทของกลุ่มอำนาจเก่า จะกินเวลาอยู่ไม่เกิน
5 ปี เท่า ๆ
กับสงครามครั้งใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นระหว่างโลกตะวันตกกับกลุ่มลัทธิคลั่งศาสนาหัวรุนแรงชาวอิสลาม กลุ่มคนรุ่นใหม่จะนำระบบธรรมาธิปไตยมาปกครองโลก
เป็นกลุ่มคนที่มองเห็นโทษของเทคโนโลยี เห็นคุณประโยชน์ของศาสนา
และเข้าใจโลกของจิตวิญญาณ พวกเขาจะฟื้นฟูศีลธรรมควบคู่กับพัฒนาวัตถุไปอย่างคู่ขนาน
และมีความพยายามอนุรักษ์ธรรมแวดล้อมถนอมทรัพยากรของโลกให้มีใช้อย่างยาวนานที่สุดมากเป็นพิเศษ
ศูนย์กลางการนำจะเปลี่ยนกลับไปอยู่แถบดินแดนของทวีปเอเซียเป็นเมืองที่มีพื้นที่ลึกเหนือขึ้นไป
แผ่นดินใหญ่ไม่อยู่แต่เพียงตามชายฝั่งทะเลมหาสมุทรเหมือนเดิม สามารถสร้างระบบการบริหารขึ้นมาได้ใหม่
เพราะที่เดิมมีระบบโครงสร้างที่ใช้พลังงานมากเกินไปและถูกทำลายไปหมดระหว่างสงคราม
ไม่สามารถจะรื้นฟื้นสร้างขึ้นมาได้อีกเพราะเศรษฐกิจล่มสลายจากสงครามที่ศัตรูมุ่งทำลายเฉพาะที่เป็นศูนย์กลางธุรกิจแหล่งผลประโยชน์โดยตรงเท่านั้น
ประเทศที่มีดินแดนอยู่ห่างไกลจากศูนย์กลางของความขัดแย้งกลับเจริญมั่งคั่งขึ้นมาแทน
ถึงแม้เศรษฐกิจโดยรวมทั่วโลกจะตกต่ำอย่างรุนแรงก็ตาม ประเทศนี้จะร่ำรวยจากการปล่อยเงินให้กู้
แก่เหล่าบรรดาประเทศที่เคยเป็นคู่แข่งทางการค้านำไปฟื้นฟูประเทศในทุก ๆ
ด้านสร้างชาติขึ้นมาใหม่หลังจากสงครามสิ้นสุดลง
แต่มหาอำนาจใหม่ของโลกนี้จะพัฒนาก้าวหน้าแต่ด้านวัตถุอย่างเดียว กลับไม่สนับสนุนกิจกรรมของสถาบันศาสนาเพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นต้นเหตุของความขัดแย้งทำให้เกิดสงคราม ดั่งตัวอย่างที่พึ่งจะยุติลงไปไม่นาน
ส่วนประเทศที่เป็นกลางส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธองค์กรทางศาสนาจะมีบทบาทเผยแผ่พระพุทธศาสนาออกได้กว้างไกล อย่างไม่มีอุปสรรคขัดขวางอีกต่อไป ประกาศศาสนาพุทธเป็นสากลแก่ทุกประเทศ ทุกคนเพียงมีพื้นฐานมั่นคงด้านศีลธรรม อันเป็นหลักธรรมเบื้องต้นที่เหมือนกันทุกศาสนาก็สามารถเข้าใจธรรมอันละเอียดของพระพุทธเจ้าได้เท่าเทียมกันหมด เพราะทุกคนได้ผ่านประสบการณ์เห็นผลลัพธ์ของการยึดมั่นเปลือกนอกของศาสนาจนเกิดหายนะ ฉิบหายกันไปทั้งสองฝ่าย
จึงทำให้เข้าถึงคำสอนของพระพุทธเจ้าได้ง่ายขึ้น ดังนั้นกลุ่มประเทศเหล่านี้จะพัฒนาประเทศอย่างเรียบง่ายพลิกฟื้นปฐพีเป็นสีเขียว เปลี่ยนโครงสร้างสังคม ทำให้สังคมน่าอยู่ ประชาชนสามารถมีความสุขได้มากกว่าสังคมเก่ามาก
และทั้งสองฝ่ายจะเป็นคู่ขัดแย้งกันที่สำคัญในระดับต่อไป ระหว่างกลุ่มประเทศที่มีประชาชนนั่นคือศาสนากับมหาอำนาจไร้ศาสนา
ผลของสงครามจะทำลายความศิวิไลย์ของมวลมนุษย์ที่สร้างมาสูญสลายไปหมดหมดสิ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น