ภพภูมิของเทวดาชั้นโพธิสัตว์
หรือพวกที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่น พวกเขาจะทะยอยลงมาเกิดเมื่อถึงเวลาอันควร
ซึ่งทุกครั้งจะเหมาะสมกับสถานการณ์ในหมู่หรือชุมชนที่กำลังต้องการพอดี เป็นการมาทั้งเรียนรู้สะสมประสบการณ์ และช่วยเหลือหรือสร้างบารมีของพวกเขา ทุกเผ่าพันธ์บนโลกมนุษย์จะมีเวทวดาในกลุ่มนี้ปะปนอยู่ด้วยเสมอตลอดเวลา
วิถีชิวิตมนุษย์ยุคชาดก
ทุกคนมีอิสระเสรีภาพเท่าเทียมกันใช้ชีวิตอย่างเสรีภายในขอบเขตธรรมชาติที่อำนวยให้
โลกให้ความเป็นธรรมแก่ทุกสรรพสัตว์ เปิดโอกาสให้ตักตวง
ดื่มกินเสพย์สมกันอย่างเต็มที่จนอิ่มหนำสำราญ แม้ช่วงเวลาจะไม่กำหนดอายุวันเดือนปี
แต่ก็มีการตายและการเกิดตลอดเวลา วิญญาณที่ล่องลอยจากร่างไปก็ยังต้องกินหรือเสพย์อยู่เหมือนกัน ที่แตกต่างออกไป หรือที่เรียกกันว่ากินทิพย์ ซึ่งอย่างไรก็ยังอาศัยคนที่ยังมีชีวิตช่วยจัดการให้
ดังนั้นจะมีแต่บรรดาพวกลูกหลานญาติมิตรที่ผูกพันธ์รู้จักเท่านั้นยอมเสียเวลาดำเนินการ คนกลุ่มใดที่ชนรุ่นหลังกระทำการตามที่บรรพบุรุษได้เซี่ยมสอนไว้อย่างสม่ำเสมอ มีผลทำให้พวกเขาเกาะกลุ่มกันเหนียวแน่นเป็นปึกแผ่นเข้มแข็งและยั่งยืน
ยุคกาลปลายสมัยชาดก
เริ่มมีสังคมแบ่งเป็นเผ่า เป็นกลุ่มพวก มีผู้หัวหน้าทำการสู้รบ แย่งชิงของรักของหวงกันในระหว่างเผ่า
มีความทุกข์ รู้สึกเสียใจในการสูญเสียที่เกิดขึ้นเมื่อพ่ายแพ้
และความดีใจของผู้ชนะสลับกันไปมา
เริ่มมีการร้องขอความช่วยเหลือจากวิญญาณบรรพบุรษให้ประสบโชคดีพบแต่ความสำเร็จ
มีการจัดระเบียบ สร้างแบบแผนพิธีกรรมเพื่อแสดงความเคารพสักการะ
ผู้ที่สามารถสื่อสารติดต่อกับจิตวิญญาณจึงเป็นผู้ที่มีความสำคัญเท่า
ๆกับผู้นำหรือหัวหน้าเผ่า ผู้คนให้ความเคารพนับถือเกรงกลัวและได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ
ความสามารถพิเศษของบุคคลเหล่านี้มีเกิดขึ้นในทุกๆเผ่า
มีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป แต่หน้าที่เหมือนกันทุกประการ
อย่างที่เรียกกันในปัจจุบันว่า “พวกพ่อมดหมอผี” หรือผู้วิเศษและหรือแม้กระทั่งว่าเป็นตัวแทนของพระเจ้าก็มี แต่ทั้งหมดก็คือพวกเขาเหล่าเทวดาชั้นพระโพธิสัตว์ทั้งนั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น